8,454
June–July 1942:118,000 men
[3]ค.ศ. 1942ค.ศ. 1943ค.ศ. 1944ค.ศ. 1945การสงครามทางเรือ:การล้อมเซวัสโตปอล ยังเป็นที่รู้จักกันคือ
การป้องกันที่เซวัสโตปอล (
รัสเซีย: Оборона Севастополя,
transliteration: Oborona Sevastopolya) หรือ
ยุทธการที่เซวัสโตปอล (
German: Schlacht um Sewastopol) เป็นการสู้รบทางทหารที่เกิดขึ้นบน
แนวรบด้านตะวันออกใน
สงครามโลกครั้งที่สอง การทัพครั้งนี้เป็นการสู้รบโดย
ฝ่ายอักษะ อันได้แก่
เยอรมนี โรมาเนีย และ
อิตาลี เข้าปะทะกับ
สหภาพโซเวียตจากพื้นที่ควบคุมที่
เซวัสโตปอล ท่าเรือในแหลมไครเมียบน
ทะเลดำ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 1941 ฝ่ายอักษะได้เข้ารุกรานสหภาพโซเวียตในช่วง
ปฏิบัติการบาร์บารอสซา กองกำลังทางภาคพื้นดินได้เคลื่อนทัพเข้าสู่ไครเมียในฤดูใบไม้ร่วง ปี ค.ศ. 1941 และรุกรานพื้นที่ส่วนใหญ่ วัตถุประสงค์เดียวที่ไม่ได้อยู่ในเงื้อมมือฝ่ายอักษะคือ เซวัสโตปอล ด้วยความพยายามหลายครั้งในการรักษาความปลอดภัยแก่เมืองในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน ค.ศ. 1941 การโจมตีครั้งสำคัญได้ถูกวางแผนเอาไว้จากปลายเดือนพฤศจิกายน แต่เกิดฝนตกหนักทำให้ฝ่ายอักษะต้องเลื่อนการโจมตีจนถึงวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 1941 ด้วยภายใต้การบัญชาการของ
แอริช ฟอน มันชไตน์ กองกำลังฝ่ายอักษะสามารถเข้ายึดครองเซวัสโตปอลในช่วงปฏิบัติการแรก กองทัพโซเวียตได้เปิดฉากการยกพลขึ้นบกบนคาบสมุทรไครเมียที่เคียร์ชในเดือนธันวาคม เพื่อบรรเทาวงล้อมและบีบบังคับให้ฝ่ายอักษะหันเหกองกำลังเพื่อป้องกันผลประโยชน์ของพวกเขา ปฏิบัติการปกป้องเซวัสโตปอลสำหรับช่วงเวลานั้น แต่หัวสะพานในไครเมียตะวันออกได้ถูกทำลายในเดือพฤษภาคม ค.ศ. 1942 ภายหลังจากความล้มเหลวของการโจมตีครั้งแรกของพวกเขาที่เซวัสโตปอล ฝ่ายอักษะได้เลือกที่จะดำเนินสงครามการโอบล้อมจนกระทั่งช่วงกลางของปี ค.ศ. 1942 ที่ซึ่งจุดที่พวกเขาจะโจมตีกองทัพโซเวียตที่รอบล้อมด้วยทางพื้นดิน ทะเล และอากาศ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ. 1942 ฝ่ายอักษะได้เริ่มเปิดฉากปฏิบัติการในครั้งนี้ รหัสนามคือ Störfang (Sturgeon Catch) กองทัพแดงแห่งโซเวียตและกองเรือทะเลดำได้ก่อตั้งขึ้นเป็นเวลาถึงสัปดาห์ภายใต้การทิ้งระเบิดอย่างรุนแรงของฝ่ายอักษะ กองทัพอากาศเยอรมัน(
ลุฟท์วัฟเฟอ)ได้มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการล้อม เหล่าอากาศที่ 8 ได้ทำการทิ้งระเบิดลงใส่กองกำลังโซเวียตโดยไม่มีการยกเว้น ด้วยเครื่องบินจำนวน 23,751 ลำและทิ้งระเบิดจำนวน 20,528 ตันในช่วงเดือนมิถุนายนปีเดียวกัน ความรุนแรงของการทัพโจมตีทางอากาศของเยอรมันได้ไปไกลเกินกว่าการทิ้งระเบิดต่อเมืองของเยอรมันก่อนหน้านี้ เช่น วอร์ซอ
รอตเทอร์ดาม หรือ
ลอนดอน การล้อมได้ยุติลง มีเพียงอาคาร 11 หลังที่ไม่ถูกทำลายหลงเหลืออยู่ในเซวัสโตปอล ลุฟท์วัฟเฟอได้ทำการจมหรือขัดขวางความพยายามส่วนใหญ่ของโซเวียตในการอพยพทหารของพวกเขาโดยทางทะเล กองทัพเยอรมันที่ 11 ได้เข้าปราบปรามและทำลายฝ่ายป้องกันด้วยการยิงด้วยกระสุนปืนใหญ่จำนวน 46,750 ตันในช่วง Störfangในที่สุด เมื่อวันที่ 4 กรฏาคม ค.ศ. 1942 กองกำลังโซเวียตที่เหลือได้ยอมจำนนและฝ่ายเยอรมันได้ยึดท่าเรือ กองทัพแยกป้องกันชายฝั่งได้ถูกทำลายลง มีผู้ถูกสังหาร บาดเจ็บ หรือถูกจับกุมเป็นเชลยในการโจมตีครั้งสุดท้ายด้วยจำนวน 118,000 คน และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 200,481 นายในการล้อมโดยรวมสำหรับทั้งเรือและกองเรือทะเลดำของโซเวียต ฝ่ายอักษะได้พบกับความสูญเสียใน Störfang จำนวนประมาณ 35,866 นาย ซึ่งมีจำนวน 27,412 นาย เป็นชาวเยอรมัน และ 8,454 นายเป็นชาวโรมาเนีย ด้วยการที่กองกำลังโซเวียตได้ถูกกำจัดลง ฝ่ายอักษะได้มุ่งเป้าความสนใจของพวกเขาในการทัพช่วงฤดูร้อนของปีนั้น
กรณีน้ำเงิน และ
การรุกรานของพวกเขาไปยังแหล่งน้ำมันเทือกเขา
คอเคซัส